ตามที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 กำหนดให้วันเข้าพรรษาของทุกปีเป็น วันงดดื่มสุราแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 เห็นชอบการจัดกิจกรรม “วันงดดื่มสุราแห่งชาติทำความดีถวายในหลวง” ในช่วงเข้าพรรษา โดยให้หน่วยงานต่างๆ จัดกิจกรรมวันงดดื่มสุราแห่งชาติในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของทุกปีตามบริบทของตนเอง ซึ่งในปีนี้วันเข้าพรรษาตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม 2565และกระทรวงสาธารณสุข มีกำหนดจัดกิจกรรมวันงดดื่มสุราแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2565 ขึ้น เพื่อเผยแพร่ความรู้ประชาสัมพันธ์ให้สังคมได้ตระหนักถึงโทษ พิษภัย และผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการปฏิญาณตนงดดื่มสุราในช่วงเข้าพรรษา ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรสงคราม ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในจังหวัด จัดกิจกรรม “วันงดดื่มสุราแห่งชาติประจำปี พ.ศ.2565” โดยพิจารณาจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามความเหมาะสม ตลอดจนขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม ลด ละ เลิก เหล้า และเข้าสู่ระบบบำบัดรักษา ผ่านระบบลงนามออนไลน์ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.Application Smart อสม.2.เว็บไซต์ อสม.com และ3.เว็บไซต์ Stopdrink.com ในช่วงเข้าพรรษาประจำปี พ.ศ.2565

ด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุุษย์จังหวัดสมุทรสงคราม ขอความร่วมมือเทศบาลตำบลบางกระบือประชาสัมพันธ์การประกวดผลิตภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยเชิญชวนประชาชน และผู้ที่สนใจ ส่งผลงานเข้าประกวดผลิตภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ 2565 โดยใช้ผลิตภัณฑ์ผ้าชุมชน ผ้าไทย ผ่านผลิตภัณฑ์ 3 ประเภท ได้แก่ เสื้อผ้า เครื่องประกอบการแต่งกาย และของใช้ เปิดรับสมัครและส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 กรกฎาคม 2565 สามารถส่งผลงานไปที่ กองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เลขที่ 255 ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 หรือทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ dpo.dwf@hotmail.com ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 รายละเอียดอื่นๆ ตามเอกสารแนบ

Attachments:

ประกาศ ประกวดผลิตภัณฑ์ 2565.pdf	[ ]	1911 Kb
ใบสมัคร การประกวดผลิตภัณพ์ 2565.pdf	[ ]	81 Kb

ประวัติวันเข้าพรรษา
          "เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนแก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่าไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่น ๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี เรียกว่า "ปุริมพรรษา" 

          ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า "ปัจฉิมพรรษา" เว้นแต่มีกิจธุระคือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า "สัตตาหะ" หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด