แบบคำขอรับบริการออนไลน์ เทศบาลตำบลบางกระบือ




คลิ๊กที่นี่

 

สร้างสุขภาพดีไม่ยาก แค่ปรับการใช้ชีวิตประจำวันให้ถูกหลัก

การมี “สุขภาพดี” ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราต้องใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยเหตุผลนี้ โรงพยาบาล พญาไท 2 เราจึงพร้อมสนับสนุนให้คนไทยใส่ใจกับการสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยเทคนิคการดูแลสุขภาพในหนึ่งวัน เทคนิคที่จะช่วยให้การสร้างสุขภาพที่ดี…ไม่ว่าใครก็ทำได้ ง่ายนิดเดียว!

สร้างสุขภาพดี…ในช่วงเช้า

  • อาหารเช้า คืออาหารมื้อสำคัญ! อย่างที่เขาว่ากันว่าการกินอาหารเช้าให้เลือกกินอย่าง ‘พระราชา’ คือกินได้ทุกอย่าง เพราะเราจะต้องใช้พลังงานไปอีกทั้งวัน เพียงแต่ต้องใส่ใจในเรื่องของแคลอรี่ และควรกินให้หลากหลายเพื่อเติมแร่ธาตุสารอาหารแก่ร่างกายให้ครบถ้วน
  • ยามสาย การดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ช่วยกระตุ้นความกระปรี้กระเปร่าได้ดี ไม่ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟ แต่ต้องให้ความสำคัญกับส่วนผสมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลทราย คอฟฟี่เมต หรือ นมข้นหวาน ควรใส่ในปริมาณน้อย หรือดื่มกาแฟดำไปเลยก็จะดีกว่านะ

สร้างสุขภาพดี…ในช่วงกลางวัน

  • อาหารกลางวัน ควรกินให้หลากหลาย การกินแต่ร้านเดิมๆ เมนูเดิมๆ ก็อาจจะทำให้เราได้รับแต่สารอาหารเดิมๆ หรือหันมาเลือกกินอาหารคลีน ก็จะช่วยลดการรับไขมันเข้าร่างกายได้ พร้อมกับเลี่ยงอาหารประเภทผัด, ทอด
  • ยามบ่าย เน้นที่น้ำเปล่า เพราะสามารถทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นได้ สำหรับบางคนที่รู้สึกหิว การดื่มน้ำก็ช่วยให้อิ่มท้องได้ หรือเลือกกินผลไม้สดประเภทที่มีน้ำตาลน้อยๆ อย่าง ฝรั่ง แอปเปิ้ล แทนก็ดีเหมือนกันนะ
  • การนั่งทำงานในออฟฟิศ ควรคำนึงถึงท่าทางการใช้งาน เพื่อป้องกันการเป็นออฟฟิศซินโดรม เช่น การนั่งหลังตรง หากนั่งแล้วเมื่อยให้หาหมอนมาอิงหลัง เพื่อให้มีการผ่อนคลาย ลดน้ำหนักที่กดทับได้ และหากนั่งนานๆ ก็ควรออกไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง

สร้างสุขภาพดี…ในช่วงเย็น

  • ออกกำลังกาย เป็นเรื่องที่สำคัญในการที่จะทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดี ก่อนออกกำลังกายควรหาอาหารเบาๆ อย่าง ผลไม้ ขนมปัง รับประทานเสียก่อน ไม่อย่างนั้น หลังการออกกำลังกายจะรู้สึกหิวและกินมากกว่าปกติ
  • อาหารมื้อเย็น ควรเป็นมื้อเบาๆ เพราะช่วงกลางคืนเราไม่ค่อยได้ใช้พลังงาน บวกกับกระเพาะจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก ควรเลือกอาหารจำพวก ข้าวต้ม หรือ สลัด และควรทานอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไปก่อนที่จะเข้านอน เพื่อป้องกันโรคกรดไหลย้อน
  • การนอน เพื่อความสดชื่นของร่างกายและสมอง ควรนอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

ลด “พุง” ลดความเสี่ยง “โรคอ้วน”

ในปัจจุบัน “โรคอ้วน” เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับคนไทย เพราะมีอัตราของผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์สูงเพิ่มมากขึ้น โดยโรคอ้วนจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ มากมาย ทั้งเบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง หัวใจ โรคไต เป็นต้น

“การลดพุง” อันเป็นแหล่งสะสมของไขมันนั้น ย่อมทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคลดลงไปด้วย เราจึงควรต้องเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่อาหารการกิน ลด ละ เลิก อาหารที่มีรสชาติเค็มและหวาน รวมถึงลดอาหารที่มีความมันเพื่อจำกัดปริมาณไขมันที่รับเข้าร่างกาย

โรคมะเร็งปอด

โรคมะเร็งปอด

มะเร็งปอด เป็นอีกหนึ่งโรคที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในกลุ่มโรคมะเร็ง โดยสาเหตุเกิดมาจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว และไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เกิดเป็นกลุ่มก้อนของเซลล์ที่ผิดปกติ ซึ่งจะตรวจพบได้ก็ต่อเมื่อมีการขยายตัวของเซลล์ และเซลล์มีการแพร่กระจายตัวออกเป็นวงกว้างไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย
 

ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนที่ทำให้เกิดมะเร็งปอดได้ แต่มีปัจจัยบางประการที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด เช่น การสูบบุหรี่ การได้รับสารพิษและมลภาวะในสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งปอด โดยมะเร็งปอด แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

    • มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (small cell lung cancer) เป็นเซลล์ที่เจริญเติบโตและแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพบได้ 10 – 15% ทั้งนี้การรักษาชนิดนี้ส่วนมากรักษาด้วยการใช้ยาหรือฉายรังสี
    • มะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก (non-small cell lung cancer) เป็นการแพร่กระจายของเซลล์ที่ช้ากว่ามะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก โดยมะเร็งชนิดนี้พบได้ประมาณ 85 – 90% สามารถรักษาให้หายได้โดยการผ่าตัด

 

มะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นมักไม่แสดงอาการใดๆ แต่หากโรคนั้นลุกลามเพิ่มมากขึ้น ร่ายกายจะแสดงสัญญาณ บ่งบอกถึงร่างกายที่ผิดปกติ เช่น ไอเรื้อรัง หายใจสั้น หายใจมีเสียงหวีด เจ็บบริเวณหน้าอกตลอดเวลาไอมีเลือดปน เสียงแหบ พบการติดเชื้อในปอดบ่อยๆ


ทั้งนี้การรักษามะเร็งปอดในปัจจุบันนั้นสามารถรักษาได้หลากหลายวิธี ทั้งพบแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อพิจารณาตำแหน่ง ขนาด และระยะของเซลล์มะเร็ง การผ่าตัดเพื่อผ่าเอาก้อนมะเร็งออก การฉายรังสีเพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็ง การให้ยาเคมีบำบัดเพื่อกำจัดและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่มีอยู่ทั่วร่างกาย หากหลังการรักษาผู้ป่วยควรพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำและป้องกันการเกิดมะเร็งที่อวัยวะอื่น

 

 

งานวิจัยเผยไมโครพลาสติกเข้าสู่สมองมนุษย์ผ่านทางจมูก!!!

นักวิจัยพบไม่โครพลาสติกอยู่ในศูนย์รับกลิ่นของสมองมนุษย์เป็นครั้งแรก ซึ่งแสดงให้
เห็นว่าปริมาณของอนุภาคขนาดเล็กที่สะสมอยู่ในร่างกาย
 
อาจสูงกว่าที่คาดไว้มาก การวิจัยในช่างหลายปีที่ผ่านมาเน้นย้ำผลกระทบอันเป็น
อันตรายของอนุภาคที่เป็นพิษเหล่านี้ต่อีกระบบภูมิคุ้มกัน
 
และเชื่อมโยงอนุภาคเหล่านี้กับโรคมะเร็งบางประเภท โดยเฉพาะคนในหนุ่มสาว การ
ศึกษาวิจัยใหม่นี้เผยให้เห็นว่า มีเส้นทางที่เป็นไปได้
 
สำหรับการเคลื่อนย้ายไมโครพลาสติกไปยังสมองผ่านทางป่องรับกลิ่น ซึ่งทำให้เกิด
ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากไมโครพลาสติก
 
ต่อความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น สภาวะสมองเสื่อม นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบ
สมองของผู้เสียชีวิต 15 ราย เป็นชาย 12 ราย
 
หญิง 13 ราย อายุตั้งแต่ 33-100 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในนครเซาเปาโลมานานกว่า 5 ปี และพบ
อนุภาคโพลีเมอร์สังเคราะห์และเส้นใย 16 ชิ้นในป่องรับกลิ่น
 
ของผู้เสียชีวิต 8 ราย โดยขนาดของอนุภาคมีตั้งแต่ 5.5 ไมครอน 24.6 ไมครอน
การศึกษาระบุว่า เนื่องจากมีไมโครพลาสติกจำนวนมากในอากาศ
การพบไมโครพลาสติกในจมูกและในป่องรับกลิ่น รวมถึงช่องทางกายวิภาคที่เปราะบาง
ช่วยตอกย้ำแนวคิดที่ว่าช่องทางรับกลิ่นเป็นจุดสำคัญ
 
ที่อนุภาคจากภายนอกเข้าสู่สมองนักวิจัยกล่าวว่าแม้แต่อนุภาคพลาสติกที่มีขนาดเล็ก
กว่า ก็อาจเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าที่เคยเชื่อและอาจเกี่ยวข้อง
 
กับภาวะระบบประสามและจิตเวช เช่น ภาวะสมองเสื่อม โดยผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ที่
เผยแพร่เมื่อเดือนพฤษภาคม ชี้ให้เห็นว่าสมองมีไมโครพลาสติก
 
มากกว่าอวัยวะอื่นถึง 20 เท่า และอาจคิดเป็น 0.5 % ของมวลสมอง แม่จะยังไม่ทราบ
แน่ชัดว่าไมโครพลาสติกดังกล่าวสะสมอยู่ที่ใด

 

คุณแน่ใจหรือ? ที่จะปล่อยให้ยูริกสูงต่อไป ⚠️


คุณแน่ใจหรือ? ที่จะปล่อยให้ยูริกสูงต่อไป!!!!

- โรคเกาต์

- โรคความดันโลหิตสูง

- โรคหลอดเลือดหัวใจ

- นิ่วในทางเดินปัสสาวะ

- ไตวายเรื้อรัง

โรคเหล่านี้เป็นผลพวงที่เกิดจากยูริกสูง

ดังนั้นจึงควรคุมอาหารที่ทําให้ยูริกสูง เช่น แอลกอฮอล์เพราะแอลกอฮอล์ทําให้ยูริกสูงมากที่สุด

เลี่ยงน้ําตาลฟรุกโตสหรือน้ําตาลจากผลไม้ ยิ่งเครื่องดื่มทุกชนิดที่ใส่น้ำเชื่อมจะมีความหวานเป็นน้ําตาลฟรุกโตส เช่น น้ําอัดลม ชานม กาแฟใส่นม สิ่งเหล่านี้ทําให้ยูริกสูงได้

ควรลดน้ำหนักตัว

ดื่มน้ำให้มากขึ้นก็จะช่วยขับกรดยูริกออกได้ดี

เสริมตัวช่วยที่จะขับกรดยูริกออกจากร่างกายได้ดีขึ้น คือ โซดามินท์ เพราะโซดามินท์ทำให้ร่างกายเป็นด่าง เนื่องจากยูริกเป็นกรดละลายได้ดีในปัสสาวะที่เป็นด่าง ถ้าเกิดปัสสาวะเป็นด่างมากขึ้นการขับกรดยูริกก็จะทำได้ดีขึ้น

เสริม Z-min ที่มีส่วนผสมของโซดามินท์ ทำให้ร่างกายเป็นด่างมากขึ้น ช่วยขับกรดยูริกออกจากร่างกาย แล้วยังมี Citric acid จะช่วยจับกรดในกระเพาะ ช่วยป้องกันกรดไหลย้อน และยังมีกรดอะมิโน Cysteine ที่ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยขจัดสารพิษของตับและช่วยให้ไตทำงานดีขึ้น



เทศกาลกินเจ 2567 เริ่มวันไหน ควรเตรียมตัวอย่างไร

เทศกาลกินเจ 2567 ตรงกับวันที่ 3-11 ตุลาคม 2567 รวมเป็นเวลา 9 วัน

 

เตรียมตัวอย่างไรกับเทศกาลกินเจ

  1. ห้ามกินผักที่มีกลิ่นฉุนหรือผักที่มีกลิ่นแรง
    เพราะจะทำให้ร่างกายและพลังธาตุถูกทำลาย ร่างกายเกิดการกระตุ้นจากรสของอาหารนั้นๆ ได้แก่ หัวหอม ต้นหอม ใบหอม หลักเกียว กุ้ยช่าย กระเทียม ใบยาสูบ (บุหรี่ ยาเส้น ของเสพติดมึนเมา) หมายถึงต้องงดสูบบุหรี่และกินเหล้าในช่วงที่ถือศีลกินเจนี้ด้วย
     
  2. ห้ามกินเนื้อสัตว์
    หรืออาหารที่มีส่วนผสมหรือส่วนประกอบ หรือเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งจากสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไขมันสัตว์ ไข่ เลือด อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์
     
  3. ห้ามกินอาหารที่มีรสจัด
    ไม่ว่าจะเป็นทั้งเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด หรือเปรี้ยวจัดก็ตาม เพราะอาหารที่มีรสจัดจะไปกระตุ้นต่อมต่างๆ ของร่างกายให้ทำงานมากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นผลให้จิตใจไม่สงบในช่วงถือศีล กินเจนี้
     
  4. ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไม่ได้ถือศีลกินเจ
    ข้อนี้แหละที่ทำให้คนถือศีลกินเจต้องไปอยู่รวมกันในสถานที่ที่มีคนกินเจรวมตัวกันอยู่ อย่างเช่นโรงทาน ศาลเจ้าต่างๆ ที่จัดงาน เพราะคนที่ทำหน้าที่ทำอาหารนั้นจะถือศีลด้วย
     
  5. ถ้วยชามที่ใช้ใส่อาหารจะต้องไม่ปนกัน
    ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือเบียดเบียนชีวิตใคร ต้องแต่งกายด้วยชุดขาว ห้ามพูดคำหยาบ โกหก ยุยง ส่อเสียด หรือพูดจาไม่เป็นสาระ
     
  6. ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา
    ในช่วงที่ถือศีลกินเจตลอด 9 วัน
     
  7. ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง
    ในสถานที่อย่างศาลเจ้า โรงเจ โรงทาน หรือสถานที่ที่จัดงานถือศีลกินเจ จะมีการจุดตะเกียง 9 ดวงเอาไว้ตลอดวันตลอดคืน จึงต้องมีคนเฝ้าไม่ให้ตะเกียงนั้นดับ
 

ทำไมเราต้องกินเจ

  1. กินเจ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เพราะอาหารเจถือเป็นอาหารชีวจิตอย่างหนึ่ง ช่วยปรับสภาพร่างกายให้สมดุล ล้างพิษในร่างกาย รวมถึงช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะคนจีนเชื่อว่า เนื้อสัตว์เป็น “หยิน” และผักผลไม้เป็น “หยาง” โดยธรรมชาติคนเรามักทานเนื้อสัตว์เยอะกว่าผักผลไม้ การงดทานเนื้อสัตว์จึงเป็นการปรับให้หยินและหยางสมดุลมากยิ่งขึ้นด้วย
     
  2. กินเจ เพื่อทำบุญ เพื่อชำระล้างใจให้ใสสะอาด ไม่เบียดเบียนสัตว์โลก ทำให้จิตใจเราผ่องใสมากขึ้น เมื่อเราทราบว่าสิ่งที่เราทำเป็นเรื่องที่ดี ก็จะส่งผลต่อจิตใจที่เบิกบาน เป็นสุขขึ้น
     
  3. กินเจ เพื่อละเว้นกรรม ที่เกิดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต หรือแม้กระทั่งการจ้างฆ่าเพื่อการบริโภค หากเราทราบว่าการงดบริโภคเนื้อสัตว์ เป็นการช่วยชีวิตสัตว์นับพันนับหมื่น เราก็จะช่วยลดกรรมของเราได้มากขึ้น

ช่วงเทศกาลกินเจ ห้ามกินอะไรบ้าง

  1. ห้ามทานเนื้อสัตว์ และห้ามทำอันตรายต่อสัตว์
     
  2. ผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง ได้แก่ กระเทียม (ไม่ดีต่อหัวใจ), หอมใหญ่ แดง ขาว ต้นหอม (ไม่ดีต่อไต), หลักเกียว ผักของจีน มีลักษณะคล้ายกระเทียมโทน (ไม่ดีต่อม้าม), กุยช่าย (ไม่ดีต่อตับ) และ ใบยาสูบ (ไม่ดีต่อปอดเมื่อใช้สูบ) นอกจากนี้ผักชนิดไหนที่มีกลิ่นฉุนก็ไม่ควรทานระหว่างช่วงกินเจด้วย
     
  3. นม เนย น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
     
  4. อาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด
     
  5. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
     
  6. ใครที่กินเจจริงจัง ห้ามทานอาหารบนภาชนะที่ใช้ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ และต้องทานอาหารที่ปรุงจากคนที่กินเจด้วยกันเท่านั้น

ช่วงเทศกาลกินเจ กินอะไรได้บ้าง

  1. ชา กาแฟ ที่ไม่ใส่นม เนย หรือครีมเทียม
     
  2. วิตามินเสริมอัดเม็ด ที่ไม่มีสารสกัดจากสัตว์
     
  3. ขนมกรุบกรอบ ที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์
     
  4. พริกไทย เป็นสมุนไพร (แต่หากรู้สึกว่ามีกลิ่นฉุน สามารถเลี่ยงได้)
     
  5. ขนมปัง (ที่เป็นขนมปังเจ หรือไม่มีส่วนผสมของนม)
     
  6. มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (สูตรเจเท่านั้น)
     
  7. แต่งหน้า และฉีดน้ำหอม (สำหรับคนถือศีล 5 หากถือศีล 8 จะทำไม่ได้)

ช่วงเทศกาลกินเจ ทานอาหารเหล่านี้ได้ แต่ไม่แนะนำ

  • น้ำอัดลม (ไม่มีข้อห้าม แต่น้ำตาลสูงเกินไป)
  • ผงชูรส (แม้จะทำจากมันสำปะหลังและกากน้ำตาลจากอ้อย แต่ผงปรุงรสอาหารอื่นๆ มักผสมเนื้อสัตว์)
  • ช็อคโกแลต (ส่วนใหญ่มีนมเป็นส่วนผสม แต่หากทานดาร์คช็อคโกแลต 100% ก็สามารถทำได้ แต่หายาก)

ถึงแม้การกินเจ จะดูเป็นเรื่องยากสำหรับคนชอบทานเนื้อสัตว์ แต่เราเชื่อว่าหากคุณได้ลองกินเจแล้ว นอกจากสุขภาพที่จะดีขึ้นอย่างทันตาเห็นแล้ว ยังอิ่มบุญอิ่มใจจากการถือศีล และหากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปด้วย ยังได้ผิวพรรณที่ดี และหุ่นสวยหล่อเพอร์เฟ็คแน่นอน ใครยังไม่เคยก็ลองกินเจปีนี้เป็นปีแรกกันดูนะคะ รับรองว่าจะต้องติดใจจนไม่อยากหยุดกินเจแน่นอน

บทความ อื่นๆ ...

Thai Arabic Chinese (Traditional) English French German Indonesian Japanese Korean Vietnamese



นายมาโนช ชัยโชค
ผู้อำนวยการกองช่าง
รักษาราชการแทน
 ปลัดเทศบาล

เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 034-757727






 

คุณพอใจ เทศบาลตำบลบางกระบือ ด้านใด
























QR Code
ทต.บางกระบือ




ลิขสิทธิ์ © 2558-2563 เทศบาลตำบลบางกระบือ จังหวัดสมุทรสงคราม สงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด.
เทศบาลตำบลบางกระบือ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม โทร 034-757-675

นโยบายการคุัมครองข้อมูลส่วนบุคคล