- การละเล่นภาคเหนือ
- การละเล่นภาคกลาง
ชื่อ
|
ซิกโก๋งเก๋ง
|
ภาค
|
ภาคเหนือ
|
จังหวัด
|
พะเยา
|
วิธีการเล่น ใช้มือถือไม้โก๋งเก๋งตั้งขึ้นให้ตรง แล้วค่อยก้าวเท้าใดเท้าหนึ่ง ขึ้นเหยียบบนไม้โก๋งเก๋ง ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เท้าซ้ายขึ้นก่อน แล้วก้าวเท้าขวาตามตั้งตัวให้สมดุลแล้วค่อย ๆ ก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งออกไป ถ้าล้มก็ขึ้นใหม่เดินใหม่จนคล่อง
ชื่อ
|
ชนกว่าง
|
ภาค
|
ภาคเหนือ
|
จังหวัด
|
เชียงใหม่
|
กว่าง เป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่งอยู่ในตระกูลด้วงมี ๖ ขา แต่ละขามีเล็บสำหรับเกาะยึดกิ่งไม้ ใบไม้ได้อย่างมั่นคงกว่างบางชนิดมีเขา บางชนิดไม่มีเขา บางชนิดไม่นิยมนำมาเลี้ยง บางชนิดนิยมเลี้ยงไว้ดูเล่นเช่น กว่างซาง กว่างงวง กว่างกิ กว่างกิอุ และกว่างอี้หลุ้ม
อุปกรณ์ในการเล่น กว่างที่นิยมนำมาเลี้ยงไว้ชนนั้นจะเป็นกว่างตัวผู้และมีเขาทั้งบนและล่าง ปลายเขาจะแยกออกเป็นแฉกและแหลมคม เขาบนติดกับส่วนหัวไม่สามารถขยับได้ ส่วนเขาล่างสามารถขยับหนีบได้ซึ่งส่วนเขานี้เองคืออาวุธสำคัญในการต่อสู้กับศัตรู
โอกาสหรือเวลาที่เล่น ฤดูกาลเล่นชนกว่างจะเริ่มต้นตั้งแต่กลางฤดูฝนไปจนถึงต้นฤดูหนาวโดยชาวบ้านจะไปจับตามกอไม้รวกด้วยการเขย่าให้ตกลงมา ถ้าเห็นว่ามีลักษณะดีตรงตามชนิดที่จะสามารถนำมาเลี้ยงไว้ชนได้ก็จะนำมาเลี้ยงโดยให้อาหารจำพวกหน่อไม้ ลูกบวบ กล้วยสุก อ้อย
ชื่อ
|
หมากเก็บ
|
ภาค
|
ภาคกลาง
|
จังหวัด
|
กรุงเทพมหานคร
|
คุณค่า/แนวคิด/สาระ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ฝึกความว่องไว ไหวพริบ ความระมัดระวัง และฝึกสายตาอีกด้วย
ชื่อ
|
ชักเย่อ
|
ภาค
|
ภาคกลาง
|
จังหวัด
|
ฉะเชิงเทรา
|
โอกาสที่เล่น ชักเย่อเป็นการละเล่นประกอบเพลงระบำเช่นเดียวกันช่วงรำที่ชาวบ้านหัวสำโรงเล่นในวันสงกรานต์เช่นกัน
คุณค่าในอดีต กิจกรรมที่สามารถเป็นสื่อชักนำให้หนุ่มสาวได้มาพบกัน ก็คืองานบุญและการละเล่นหลังทำบุญการเล่นชักเย่อก็เช่นกัน ทำให้หนุ่มสาวได้พบหน้าเกี้ยวพาราสีและสนุกสนานด้วยกัน แต่ปัจจุบันคนหนุ่มสาวมีโอกาสพบกันโดยไม่มีข้อจำกัด
ชื่อ
|
โปงลาง
|
ภาค
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
จังหวัด
|
กาฬสินธุ์
|
"โปงลาง" เป็นเครื่องดนตรีพื้นเมืองของอีสานชนิดหนึ่งที่ถือกำเนิดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยเฉพาะผู้สืบทอด และอนุรักษ์ไว้ คือ นายเปลื้อง ฉายรัศมี ศิลปินแห่งชาติ "โปงลาง" จึงควรแก่การอนุรักษ์และถ่ายทอดให้เยาวชนรุ่นหลังได้ทราบ และตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามและคุณความดีของบุคคลที่น่ายึดถือเป็นแบบอย่างสืบทอดไว้ตราบชั่วกาลนาน
อุปกรณ์ การเล่นโปงลางต้องประกอบไปด้วยดนตรีพื้นบ้าน ได้แก่ แคน ซอ พิณ หมากกั๊บแก้บ กลอง ไห นอกจากนี้ปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นโดยมีนักร้องและผู้ร่ายรำประกอบเสียงดนตรีในวงโปงลางอีกด้วย
ชื่อ
|
การเล่นงูกินหาง
|
ภาค
|
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
|
จังหวัด
|
ร้อยเอ็ด
|
ชื่อ
|
หมากขุม
|
ภาค
|
ภาคใต้
|
จังหวัด
|
นครศรีธรรมราช
|
๒) ลูกหมาก นิยมใช้ลูกสวดเป็นลูกหมากใส่ลูกหมากหลุมละ ๗ ลูก จึงต้องใช้ลูกหมากในการเล่น ๙๘ ลูก
โอกาสหรือเวลาในการเล่น การเล่นหมากขุมจะเล่นในยามว่างจากการงาน เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นพักผ่อนหย่อนใจ จึงเล่นได้ทั้งวัน
๑. การเล่นหมากขุม มีคุณค่าในการฝึกลับสมอง การวางแผนการเดินหมากจะต้องคำนวน จำนวนลูกหมากในหลุม ไม่ให้หมากตาย และสามารถกลับมาหยิบลูกหมากในหลุมของตนเองได้อีก ผู้เดินหมากขุมจึงต้องมีสายตาว่องไว คิดเลขเร็ว เป็นการฝึกวิธีคิดวางแผนจะหยิบหมากในหลุมใดจึงจะชนะฝ่ายตรงกันข้าม เป็นการฝึกให้ผู้เล่นรู้จักคิดวางแผนในการทำงานทุกอย่างสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
๒. เป็นการพักผ่อนหย่อนใจ นันทนาการภายในบ้าน ภายในชุมชน ให้ทั้งความสนุกสนาน และความใกล้ชิดระหว่างพี่น้อง ญาติมิตร
๓. ก่อให้เกิดการประดิษฐ์รางหมากขุม ที่มีความสวยงามและประณีต เป็นความภาคภูมิใจของผู้สร้างชิ้นงาน และยังสามารถสร้างรายได้ในการจำหน่ายรางหมากขุม
|
อุปกรณ์การเล่น
๑. อุปกรณ์ในการเล่นมีดังนี้ (ใช้อย่างหนึ่งอย่างใด)๑) ยางเส้น ๒) เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ๓) เมล็ดสวาด ๔) เมล็ดสวด ๕) ลูกนู (ก้อนดินกลม) วิธีการเล่น๑) เมื่อสัญญาณการเล่นเริ่มขึ้นทุกคนจะกอบหรือกำของที่อยตรงหน้านั้น โดยไม่ให้คนอื่นเห็นว่ามีจำนวนเท่าใด ๒) ให้ทายที่คนว่าของในมือของทุกคนเมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนเท่าใด ๓) เมื่อทายเสร็จทุกคนแบมือออกและนับของในมือของทุกคน ใครทายถูกได้เป็นกรรมสิทธิ์ในของนั้น ถ้าทายถูกหลายคนใช้วิธีหารแบ่งกัน ถ้ามีเศษให้รวมไว้เป็นกองกลาง เพื่อเล่นหนต่อไป โอกาสหรือเวลาที่เล่น กำทาย เป็นการเล่นอย่างหนึ่งของเด็ก เล่นได้ทั้งชายและหญิงเป็นการเล่นในร่ม โดยมีผู้เล่น ๒-๕ คน นั่งล้อมวงกัน แล้วแต่ละคนเอาของชนิดเดียวกันวางกองไว้ตรงหน้า การเล่นกำทาย เป็นการละเล่นที่ฝึกทักษะในการคำนวณ และการสังเกต |
การละเล่นของเด็กไทยที่จะนำมากล่าวถึงจะเป็นเพียงตัวอย่างที่เลือกมาจากที่เล่นกันอยู่ในสมัยโบราณ เฉพาะที่มีคุณค่าในการพัฒนาเด็กในด้านต่างๆ การเล่นบางอย่างยังยืนยงมาถึงปัจจุบัน บางอย่างก็หมดไปด้วยเหตุที่วัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาแทนที่ เพราะเด็กขาดความอิสระเสรีในการเล่นพ่อแม่ ครูเข้ามามีบทบาทในการกำหนดการเล่นของเด็กมากขึ้นการเล่นแบบเดิมนี้จึงควรอนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติวัฒนธรรมของไทยให้เด็กรุ่นหลังได้รู้จักและเพื่อศึกษา ลักษณะสังคมไทยในสมัยนั้น ๆ
ที่มา : http://karnlalenthaibybaitong.blogspot.com/2012/08/blog-post.html